ได้จาก Forward Mail เห็นว่าเข้ากับช่วงเวลาที่กำลังมีการหาเสียงเลือกตั้ง เลยอยากแบ่งปัน ยาวหน่อย แต่อ่านลื่น อ้อ! นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าคนพูดมักไม่ทำ แต่คนทำมักไม่พูด
โดย: คนไท รักในหลวง
เอาเรื่องมาเล่า เอาความจริงมาฝาก..
วันนี้ขอเป็นเรื่องเศรษฐกิจการค้า ที่เป็นความจริง..
เพราะได้ยินกับหู ดูด้วยตา แล้วใช้วาจาอธิบาย..
จะเล่าแบบชาวบ้าน ไม่ใช่นักวิชาการ..
เพื่อใช้ประกอบการพิจารณา ว่าคนไทยควร กาเลือกพรรคใดและใครที่ควรเลือก..
ขับรถเข้าสนามกีฬา เห็นนักธุรกิจการค้ายืนจับกลุ่มใหญ่ คราวนี้หลายคน ทั้งไทยทั้งเทศ...
ตามประสาคนชอบพอกัน กัดฟันเดินเข้าไปหา..มีคนมากอดเหมือนเดิม....
แต่คราวนี้ชิงถามไปเลยว่าบทสนทนามันเรื่องอะไร..
หนึ่งในนั้นบ่นออกมาอย่างสงสัย แปลกใจจัง..
ทำไมคนไทยไม่รับรู้เรื่องการค้าเรื่องเศรษฐกิจบ้างเลยเหรอ...
ซักไซ้ไล่เรียงว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น...
พลันก็ได้คำถาม คำตอบ หรือคำสอนก็ไม่รู้ลองฟังดูเอาครับ...!!
ตลอดสองปีกว่าๆที่ผ่านมา..
เค้าบอกว่า..
ทั้งๆที่มีเรื่องวุ่นวายมากมายในเมืองไทย เศรษฐกิจโลกแทบล้มละลาย...
แต่คนไทยจะรู้บ้างไหมว่า ประเทศไทยกลับ มีฝีมือดีพอที่รอดพ้นหายนะมาได้อย่างอัศจรรย์..
เค้าบอกต่อว่า ได้เดินทางไปทำการค้ากับหลายๆประเทศเห็นความแตกต่างอย่างมาก เมื่อเทียบกับประเทศไทย...
ข้าวของแพง แต่คนขายกลับขายของไม่ได้..ตอนแรกเค้าก็คิดว่าจะย่ำแย่ แต่ไปๆมาๆกลายเป็น ..
เมืองไทยยังเป็นเมืองสวรรค์อยู่เหมือนเดิม ...
ส่วนอีกคนก็บอกมาว่า
ตอนแรกรัฐบาลนี้เข้ามาก็ไม่มั่นใจ อยู่ไปอะไรก็ดีขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่น่าเชื่อ และก็ยังงงว่าเป็นเพราะอะไร..
แต่ที่แน่ๆเค้าบอกว่า..
คนไทยไม่รู้ ไม่เข้าใจหรือไม่อยากเข้าใจ เพราะอะไรจึงมองไม่เห็นว่า.....
การที่ไม่เจอสิ่งที่เลวร้ายทางเศรษฐกิจ
แต่กลับมองว่า
“นายกฯแค่โชคดี หรือไม่ก็ รัฐบาลฯโชคช่วย หรือไม่มีความสามรถกว่าชาติอื่นๆ
ทั้งๆที่คนต่างชาติมองว่าประเทศไทยมีรัฐบาลที่มีความสามรถ มีบุคคลากรที่มีความรู้มาบริหารประเทศ”....
เหมือนจะว่าคนไทยกลายๆว่า
”ไม่รู้จักพอ หรือไม่รู้คุณค่า”..
ที่มีของดี คนดีให้ใช้ อันหมายถึงรัฐบาลฯแต่กลับไม่เห็นค่า..
แล้วในที่สุด..
พอตบท้ายคนเล่าก็ด่ารัฐบาลชุดนี้เล็กๆว่า...
สื่อสารไม่ดีหรือไม่สื่อสารก็ไม่รู้คนไทยถึงไม่เข้าใจ..!
เราก็รับฟังเป็นข้อมูลไม่พูดอะไร...
ฟังไว้ก่อนพ่อสอนไว้....!!
ทันใดนั้นรถเบนซ์ s 500 ....
คันหนึ่งก็เลี้ยวเข้ามาจอด.......
คนในรถเดินตรงเข้ามาร่วมแจม..
คราวนี้เป็นคนไทยที่สนิทสนมกันดี..
เป็นเจ้าของโรงงานพับเหล็กขึ้นรูป พร้อมชุบสีฝุ่นเบ็ดเสร็จ เป็นขาใหญ่ย่านบางบอน..
เข้ามาแจมแล้วถามว่า topic คืออะไร..
หลังฟังจบคนนี้มาแรงกว่าคนกลุ่มเดิมครับ..
เค้าบอกว่า...
เริ่มต้นก็ตั้งแต่เดือนมกรา ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น มีออร์เดอร์มากมายล้นมือถึงขั้นต้องปฏิเสธ ลูกค้าบางราย..
ทั้งงง.ทั้งแปลกใจ แถมไปที่ไหนก็ได้ฟังเรื่องนี้มาคล้ายๆกันหมด...
ไอ้เรารึก็อยากจะฟัง แต่ในที่สุดภาระ ขาเม้าท์ เจ้าประจำก็หล่นมาตกที่ผมจนได้..
เมื่อมีผู้หวังดีหรือหวังต้อนผมก็ไม่รู้ โยนมาทันทีว่า..
แล้วเฮียมีความเห็นอย่างไร เพราะอะไร อธิบายได้ไหม...
ได้ทีตามวิสัย...
ก็เลยบอกว่าจะพูดเท่าที่รู้นะครับที่ไม่รู้ไม่พูด
ออกลีลาตามประสาคอการเมือง
การประเทศว่า..! ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกาปีที่แล้ว...
หลังจากที่นายกฯประกาศ แนวทางการปรองดอง
พร้อมปฏิรูปประเทศไทยควบคู่กับการประกาศกำหนดวันยุบสภาฯ
ตามที่เห็นที่เป็นอยู่ทุกวันนี้...
ก็พออนุมานได้ว่า..
นายกฯแม่นเรื่องเวลา เรื่องประสิทธิภาพและประสิทธิผล...
ของผลงานและนโยบายเดินหน้าประเทศไทยแน่ๆ...
ผมว่าทุกอย่างส่งผลให้เห็นได้เด่นชัดขึ้นเรื่อยๆเป็นลำดับ ในทุกๆภาคส่วน..
จะมาติดบ้างก็ของแพงกับราคาน้ำมัน แต่ก็ผ่านมาได้ ด้วยการกล้าตัดสินใจพยุงราคาน้ำมันดีเซล
กับใช้นโยบายเพิ่มรายได้ ไม่ได้ใช้แนวทางการควบคุมราคาอย่างที่รัฐบาลอื่นเคยใช้
แถมล่าสุดต่างประเทศชมเชยการกล้าตัดสินใจทำของรัฐบาลไทย เพราะน้ำมันเริ่มลด...
เนี้ยรัฐบาลของเรามัน world class จริงๆนะ...
เครื่องเริ่มติดแล้วครับตอนนั้น..
เมื่อให้ไปมองกับคนรอบข้างที่ หูผึ่งตาแป๋ว กันเป็นแถวๆ....
จึงอธิบายต่อว่า...
ครั้งแรกที่รัฐบาลเข้ามาทำเรื่อง “เช็คช่วยชาติ” ....
คนขี้อิจฉาด่าทอกันทั้งเมือง แล้วก็เป็นที่ประจักษ์ว่า เงินกลับเข้าสู่ระบบทันที
ใครว่าหาเสียงหรือประชานิยมก็สุดแล้วแต่ แต่ประเทศเริ่มฟื้นขึ้นมาทันที
เป็นสัญญานเล็กๆที่เริ่มมองเห็น กับ”วิธีคิด ที่กล้าทำ”นี้....
การกู้มาลงทุนกับโครงการ “ไทยเข้มแข็ง”
เป็นเรื่องเด็ดต่อมา เงินเข้าระบบแบบเต็มๆ..
ส่วนใครจะว่าโกงกันเละ ก็มิอาจทราบได้ แต่ที่แน่ๆกู้มาแค่ครึ่งเดียว แล้วเลิกกู้นี้แหละที่เห็นผล...
คนกะว่าว่างงาน 700,000 ถึง 1,200,000 คน
กลายเป็นไม่ถึง เหลือแค่ 200,000 กว่าๆเท่านั้นเอง...!
เหลือบมองในครองสายตาตอนนั้น
เริ่มมีพยักหน้าแล้วครับ...
ผมเจาะใจต่อตามประสาว่า..
ที่ฮ๊อตมากที่สุดก็เรื่อง เปลี่ยนจากระบบการจำนำพืชผลมาเป็นรับประกันราคา....
นี้แหละครับ ที่เริ่มเป็นไฮไลท์..
พิสูจน์กึ๋น..!!
คนคู่ทั้งนายกทั้งท่านกรณ์...
ผมว่าการเมืองก็ได้ การประเทศก็มั่นคง ...
ต่อให้ใครสร้างเรื่องใดๆว่าไม่ได้ผล ก็ปฏิเสธความจริงกับเสียงส่วนใหญ่ไม่ได้ว่า มันเป็นผลจริงๆ...
จบเรื่องนี้โดยเซียนต่างชาติถามสวนขึ้นมาว่า...
อย่างนี้เป็นการเอาใจชาวบ้าน เอาเงินไปทิ้งหรือเปล่า....
เข้าทางผมทันทีกับคำถามนี้..!
อ๋อ !!...คงหมายถึงว่ามันประชานิยมจ๋าใช่ไหมครับ...
เค้าพยักหน้า ผมก็ตอบไปทันที่ว่า...
ไม่สามรถหยั่งรู้นะครับกับนิยามนี้..
แต่ผมตอบได้แต่เพียงว่า..
เงินทุนสำรองระหว่างประเทศมันมีมากถึง 120,000 ล้าน..
เก็บภาษีได้เกินเป้าไม่รู้กี่ครั้ง ตัวเลขทางเศรษฐกิจก็ดีเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยตลอด..
ถ้าทั้งหมดนี้เรียกว่าประชานิยม ผมก็อยากได้ด้วยหล่ะครับ..
ยิ้มกันใหญ่แถมอัดบุหรี่กันไฟแล๊ป...
ฟังผมเม้าท์แตกอย่างต่อเนื่องตามสไตล์พ่อค้า...
พวกนี้คงไม่อยากฟังเรื่อง..
เรียนฟรี รถเมล์ฟรี ฯลฯ เท่าไหร่หรอกครับทั้งๆที่มันแสนดีผมจึงไม่ได้เล่า...!!
และแล้วจุด”ฮไลท์” ก็มาถึง ...
เมื่อเจ้าของเบนซ์คันงามก็พูดขึ้นมาเองว่า...
เศรษฐกิจคงปรับตัวดีขึ้นจริงๆอย่างผมว่า..
เพราะเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แกไปนั่งกินโต๊ะแชร์มา
เจอเถ้าแก่คนทำอุตสาหกรรมเหล็กคนนึงพูดขึ้นมาว่า...
จริงๆอั๊วชอบทักษิณมากนะ อีทำอะไรรวดเร็วดี
แต่พอได้นั่งคุยกับลูกชาย ลูกชายมันจบเมืองนอกมา
มันบอกอั๊วว่า แบบที่นายกฯหน้าหล่อกับคนตัวสูงทำเนี้ย มั่นคงค่อยเป็นค่อยไป
แล้วก็จะยั่งยืนกว่าเยอะ เป็นสากลด้วย..
ป๊าตัองอดทนรอมองดูว่ามันจะเห็นผล...
สงสัยมันจะจริงตามลูกอั๊วพูด..
อั๊วเองต้องเริ่มคิดใหม่ทำใหม่ ตามที่ทักษิณมันพูดแล้วหล่ะ...!
เท่านั้นหล่ะครับ..
ฮากันขี้แตก ขี้แตนกันทั้งวงเม้าท์เลย....!!
ไปๆ ขึ้นไปเล่นแบดกันดีกว่า..
เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา.
แต่มีอีกเสียงนึงสวนใสขึ้นมาทันทีว่า...
เฮียๆแล้วเฮียว่า เลือกตั้งครั้งนี้ใครจะมาเป็นรัฐบาล..
ถามใครไม่ถาม มาถามผม..คงรู้นะครับว่าผมตอบไปว่าอะไร.....!!!
เอาเป็นว่าคำตอบของผมสร้างรอยยิ้มได้ก็แล้วกันครับ..!!!
เป็นอันว่าผมได้ทำหน้าที่ บอก พูด เล่า
และชี้แจงเรื่องบางเรื่องที่คนอย่าง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรณ์ จาติกวนิช...
ไม่มีโอกาสได้ทำ
เพราะการยกยอผลงานตนเองนั้น มันอาจดูไม่เหมาะไม่งาม.....
แต่ที่แน่ๆท่านสังเกตุไหมครับว่า..
ไม่มีนักวิชาการสู่รู้ สู่คิด
หรือไอ้คนที่ว่าสุดยอดฝีมืออย่างนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์
หรือนักการคลังแอ๊ปสีทั้งหลายไม่ค่อยออกมาตำหนิรัฐบาลชุดนี้..
เพราะถ้ามันออกมาก็แสดงว่า คนเหล่านั้นจะเปิดเผยตัวตนให้คนได้รู้ทันทีว่า..
เป็นได้แค่...
นักเลคเชอร์เศรษฐกิจและการตลาดเท่านั้น....
ตัวเลขมันเถียงกันไม่ได้ แถมนานาชาติจัดลำดับความสามารถรัฐบาลชุดนี้ติดระดับต้นๆในเวทีโลกไปแล้ว ..
แล้วใครจะกล้า...!!
ยกเว้น นักการเมือง กับผู้หญิงขี่ม้า พรรคชินวัตร เท่านั้นแหละที่กล้าพูดอยู่ฝ่ายเดียว.....
แต่ไม่กล้า ”ดีเบต”...!!
อย่างฮาเลยครับ ขอบอก..!! .....
แล้วเรามาคอยติดตาม "นโยบายแจกไม่อั้น เอาประเทศฉันคืนมา"ของตระกูล"ชินวัตร" กันต่อไป....
กับคำที่ว่า "ส่งสุนัขกับเสาไฟฟ้าลงยังชนะ"..
เพราะ ยิ่งลักษณ์เป็น "โคลนตมหรือโคลนนิ่ง" ของ ทักษิณ..
มันก็แค่ปลักควายปลักเดิมแหละครับ..!!
จาก
เศรษฐกิจโลกแทบล้มละลาย... คนไทยจะรู้บ้างไหมว่า ประเทศไทยกลับ มีคนที่ฝีมือดีพอที่พาประเทศรอดพ้นะมาได้อย่างอัศจรรย์
| 
